Google
 

싼야민공- Phomthong's LiveTV 3G+ Online

phomthong on livestream.com. Broadcast Live Free

การทำศาสนสัมพันธ์ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข

" ศาสนสัมพันธ์ เป็นการเสวนาระหว่างศาสนาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีต่อกัน และเพื่อความดี ร่วมกันเน้นการ เสวนา และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน และองค์กรต่างๆ รวมไปถึงการรักษาไว้ซึ่งคุณค่าของขนมธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ของท้องถิ่นด้วย " คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้จัดการแผนกศาสนสัมพันธ์ ฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูต "ในสถานศึกษาหรือโรงเรียนต่างๆ ควรมีฝ่ายจิตตาภิบาล สนับสนุนให้ทุกคนเป็นศาสนิกที่ดีในศาสนาของตน เพื่อนำสู่การทำศาสนสัมพันธ์ โดย •ปลูกฝังความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนสัมพันธ์ การเสวนากับผู้ต่างความเชื่อ •ส่งเสริมการเสวนาระหว่างศาสนาในทุกระดับ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เคารพให้เกียรติและร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมที่มีความยุติธรรม สันติสุข และความเป็น พี่น้องกัน

Dekdee Club Chat

Thursday, 5 March 2009

จิตตาภิบาล: การทำงานของโรงเรียนคาทอลิกที่มีประสิทธิผล

จิตตาภิบาล: การทำงานของโรงเรียนคาทอลิกที่มีประสิทธิผล
โรงเรียนคาทอลิกที่มีประสิทธิผลจะจัดระบบการศึกษาและกระบวนการเรียนการสอนนั้น
อย่างน้อยจะมีลักษณะเฉพาะ 4 ประการ (Anthony Bryk : 1993) ดังนี้
1) แผนการเรียนการสอนที่มีแก่น/จุดศูนย์รวม
แกนหลักสูตรและแผนการสอนจะต้องเป็นลักษณะมุมมองเชิงรุก (Proactive) ของครูและผู้บริหาร
เกี่ยวกับสิ่งที่นักเรียนสามารถเรียนรู้และควรเรียนรู้ โดยพิจารณาคำนึงถึงภูมิหลังของนักเรียนและแผนการ
ศึกษาอนาคต ที่คัดเลือกเนื้อหาบทเรียนและปริมาณที่พอเหมาะ

2) การจัดโครงสร้างหลักสูตร
โครงสร้างของหลักสูตรจะมีลักษณะสำคัญ 3 ประการ คือ

2.1) กลุ่มกิจกรรมต้องมีลักษณะกว้างและครอบคลุมพัฒนาการต่างๆ ของชีวิต ทั้งด้านสติปัญญา
ร่างกาย อารมณ์ จิตใจและสังคม เช่น การฟื้นฟูจิตใจ การร่วมพิธีกรรม/ศาสนกิจ กีฬา การฉลองประจำปี
โครงการด้านวรรณกรรม ดนตรี ศิลปวัฒนธรรม ซึ่งเป็นการเตรียมโอกาสมากมาย เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้
/ปฎิสัมพันธ์แบบใกล้ชิด และการแบ่งปันประสบการณ์ระหว่างผู้ใหญ่กับนักเรียน เป็นโอกาสที่ทำให้
ความผูกพันระหว่างสมาชิกของโรงเรียนมีความลึกซึ้งมากขึ้น และสร้างความสัมพันธ์กับนักเรียนรุ่นพี่
กับรุ่นน้อง โดยกิจกรรมดังกล่าวได้รับการเอื้ออำนวยจากการสร้างแผนการเรียนการสอนข้างต้น

2.2) มีการจัดการองค์กรอย่างเป็นกิจลักษณะเพื่อสร้างหมู่คณะ สิ่งสำคัญที่สุด คือ บทบาทของครู
ที่ขยายออกไป ครูไม่เป็นเพียงผู้สอนภายในห้องเรียนเท่านั้น แต่ยังทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาประจำห้อง
หรือชมรม ซึ่งทำให้นักเรียนกับครูสามารถพบปะกันตามทางเดิน ในสนามเล่น ห้องอาหาร
ในละแวกโรงเรียนและบางครั้งที่บ้าน ปฎิสัมพันธ์ระดับบุคคลจำนวนมากซึ่งเกิดขึ้นระหว่างผู้ใหญ่กับเด็ก
นอกห้องเรียน เป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มโอกาสของการแสดงความห่วงใยและสนใจส่วนตัวออกมา
การทำงานร่วมกันในแบบขององค์ประชุมระหว่างครูก็มีความสำคัญเช่นกัน ครูอาจารย์ของโรงเรียนคาทอลิก
ใช้เวลาอยู่ด้วยกันทั้งในและนอกโรงเรียน ปฏิสัมพันธ์ทางสังคมระหว่างกันเหล่านี้ จะเป็นจุดประสาน
การแก้ปัญหาของโรงเรียน และมีส่วนช่วยสร้างความสมานฉันท์ระหว่างผู้ใหญ่ขึ้นรอบๆ ภารกิจของโรงเรียน
ในบริบทดังกล่าว การตัดสินใดๆ ของโรงเรียนมีแนวโน้มว่า มีความขัดแย้งน้องลง และบ่อยครั้งจะมี
ลักษณะของความไว้วางใจและการให้ความเคารพต่อกัน

2.3) หลักสูตรมีลักษณะแนวคิด/ความเชื่อร่วมกันของผู้รับผิดชอบ ครูและผู้เรียน เกี่ยวกับสิ่งที่นักเรียน
ควรจะเรียน เกี่ยวกับเกณฑ์การสอนที่เหมาะสม และเกี่ยวกับวิธีการสัมพันธ์กับคนทั่วไป สิ่งที่เชื่อมร้อย
ปรัชญาการศึกษาในโรงเรียนคาทอลิก คือ ความเชื่อถือด้านศีลธรรมเกี่ยวกับบุคคล สังคม วัฒนธรรม
และบทบาทของโรงเรียนต่อการส่งเสริมความยุติธรรมทางสังคม
ดังนั้น การจัดองค์กรทางสังคมระดับพื้นฐานของโรงเรียน ในฐานะเป็นกลุ่มคน จึงมีผลที่ตามมาต่อบุคคล
และสังคมสำหรับทั้งครูและนักเรียน

3) อุดมการณ์ที่เป็นแรงบันดาลใจ
ความคิดสำคัญ 2 ประการ ที่เป็นแรงจูงใจหรือบันดาลใจสำคัญอันเป็นคุณค่าต่อการเรียนรู้
คือ บุคคลนิยมและการอยู่ใต้บังคับบัญชา ซึ่งจะเป็นตัวปั้นแต่งชีวิตในโรงเรียนคาทอลิก

บุคคลนิยม คือ สิ่งที่เรียกร้องความเป็นมนุษย์ในปฎิสัมพันธ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นและประกอบเป็นชีวิตประจำวัน
กุญแจสู่การมุ่งไปบุคคลนิยม คือ บทบาทของครูที่ขยายตัวออกไปในการให้ความสนใจเกี่ยวกับประเภท
ของบุคคลของนักเรียนเหมือนกับข้อเท็จจริง ทักษะและความรู้ที่พวกเขาต้องการ ยิ่งไปกว่านั้น
บุคคลนิยมยังเป็นบรรทัดฐานร่วมของโรงเรียน คือ แบบพฤติกรรมของครูและการกลายเป็นอุดมคติของ
นักเรียน
การมอบหมายงานที่ต้องพิจารณาความชำนาญเฉพาะด้านและประสิทธิผลต้องกระทำผ่านการเคารพใส่ใจ
ต่อศักดิ์ศรีของมนุษย์ของผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา มิใช่มุ่งเพียงผลประโยชน์ของงานเฉพาะด้านและแสดง
ความสามารถสร้างกระบวนการองค์กรในการจัดการที่ซับซ้อน และในทำนองเดียวกันผู้ใต้บังคับบัญชา
ต้องยอมรับบทบาทและภารกิจที่ต้องให้ความร่วมมือและรับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
และนักเรียนที่อยู่ในความรับผิดชอบ

4) การปกครองแบบกระจายอำนาจ
การกระจายอำนาจการปกครองมิใช่เพียงเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพมากกว่า หรือการสร้างองค์กร
ที่ทำให้ผู้ร่วมงานมีความไวต่อการรับรู้ แต่ที่ถูกต้องคือ การกระจายอำนาจได้รับการยืนยันทัศนะว่า
ศักดิ์ศรีและความเคารพต่อความเป็นมนุษย์จะได้รับการปฎิบัติได้ดี เมื่องานถูกจัดไว้โดยคิดถึงหมู่คณะ
เล็กๆ ซึ่งมีการเสวนาและทำงานแบบเป็นหมู่คณะ ที่แก่นของความเชื่อถือนี้ คือ ศักยภาพทั้งหมด
ของบุคคลทั้งหลายจะเป็นที่ยอมรับนับถือในการรวมกลุ่มเป็นอันหนึ่งเดียวกันทางสังคม ซึ่งสามารถสร้าง
ขึ้นได้เฉพาะในความสัมพันธ์สมาคมของกลุ่มเล็กๆ

No comments:

Post a Comment

เพลงเ็ด็กเอ๋ย..เด็กดี..หน้าที่เด็ก

2012 :Earth End Movie วันสิ้นโลก

2012 วันสิ้นโลก-Earth end

The Happiness of Kati : ความสุขของกะทิ

ครูคือใคร?..MV พระคุณที่สาม..วันครู 16 มกราคม

ตรุษจีน-ง่วนเซียว Yuan Xiao Day

เพลง ครูในดวงใจ ของ ไมค์ ภิรมย์พร

Fun Language in Thailand: English is fun!

Thai Alphabet Songs: Ko-Gai Song: เพลง ก.เอ๋ย ก.ไก่

ABC song for Kids

Korean/Japanese/Chinese/English: Language is Fun!

Korean Alphabet: Hungul Rap song รู้ลัดภาษา..เกาหลีแร็พ

Learn Korean Online..ฝึกเกาหลีออนไลน์ by Youtube

Korean Lesson 1: Vowels สระเกาหลี

Learn Japanese Rap:Hiragana Symbols..สนุกกับภาษาญี่ปุ่น