ดาวน์โหลดแบบรายงานการสละสิทธิ์ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ
ได้ที่นี่ http://www.prachinburi2.go.th/News/15%20Year.doc
สพฐ.ให้ ร.ร.กรอกข้อมูลการสละสิทธิ์ตามนโยบายเรียนฟรี 15 ปี ผ่านเว็บ
ขอให้แจ้งโรงเรียนในสังกัดกรอกข้อมูลการสำรวจและรายงานข้อมูลจำนวนผู้ขอสละสิทธิ์ทางเว็บไซต์ www.techno.bopp.go.th/free15
ภายในวันที่ 6 มีนาคม
Refer to http://www.kroobannok.com/view.php?article_id=5747
จี้รร.เร่งสำรวจคนสละสิทธิ์เรียนฟรี
โรงเรียนสาธิตฯขอเก็บค่ากิจกรรมผู้เรียนเอง อ้างรับจากรัฐบาลเป็นข้อจำกัดพัฒนาศักยภาพเด็กดร.สุเมธ แย้มนุ่น เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา (กกอ.) เปิดเผยว่า ตนได้มอบหมายให้โรงเรียนสาธิตในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ทั้ง 55 แห่ง ไปสำรวจความคิดเห็นของผู้ปกครองว่าจะมีผู้สละสิทธิ์ ใน 3 รายการ ได้แก่ ชุดนักเรียน อุปกรณ์การเรียน และตำราเรียน ตามโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพ หรือไม่แล้ว โดยให้รายงานกลับมายัง สกอ. โดยการสละสิทธิ์จะเป็นการสละสิทธิ์รายบุคคล ไม่ใช่การสละสิทธิ์ทั้งสถานศึกษา
ผศ.พวงทอง อ่อนจำรัส ผอ.โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น กล่าวว่า จากการประชุมผู้บริหารโรงเรียนสาธิตทั่วประเทศ 2 ครั้ง ที่ประชุมมีมติว่า โรงเรียนสาธิตฯจะขอรับการสนับสนุนจากรัฐบาลเพียง 4 รายการ คือ ค่าเล่าเรียน ค่าหนังสือ ค่าอุปกรณ์การเรียน ค่าเครื่องแบบนักเรียน ส่วนค่ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียนนั้นไม่ขอรับการสนับสนุน แต่จะขอเก็บจากผู้ปกครองเอง เนื่องจากแต่ละปีโรงเรียนสาธิตจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อเสริมศักยภาพนักเรียนหลายโครงการ หากรับการสนับสนุนจากรัฐบาลอาจจะเป็นข้อจำกัดในการพัฒนาศักยภาพนักเรียนในส่วนนี้ได้
ผศ.นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวว่า ขณะนี้โรงเรียนสาธิต มศว กำลังสำรวจผู้ปกครองว่าใครจะขอรับสิทธิหรือสละสิทธิ์บ้าง ซึ่งหากมีผู้สละสิทธิ์โรงเรียนจะนำเงินส่วนนั้นไปช่วยเหลือครอบครัวเด็กที่มีความจำเป็น โดยจะมีการประชุมผู้ปกครองเพื่อชี้แจงและให้ผู้ปกครองได้ตัดสินใจในวันที่ 28 ก.พ.นี้
ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวว่า สพฐ.ได้มอบหมายให้โรงเรียนในสังกัดไปประชุมและทำความเข้าใจกับผู้ปกครองเกี่ยวกับนโยบายเรียนฟรี รวมทั้งการสละสิทธิ์ ในวันที่ 27 ก.พ.และให้รายงานกลับมายัง สพฐ.ภายในวันที่ 6 มี.ค.โดยโครงการเรียนฟรี 15 ปีอย่างมีคุณภาพในส่วนของ สพฐ. ที่จะจัดสรรเงินให้นักเรียนและผู้ปกครองไปเลือกซื้อเอง มี 2 รายการ คือ ชุดนักเรียนและอุปกรณ์การเรียน หากใครสละสิทธิ์จะเป็นการสละสิทธิ์ปีต่อปีไม่ผูกพันในปีต่อ ๆ ไป ส่วนตำราเรียนและ กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนโรงเรียนจะจัดให้แก่นักเรียนทุกคน.
Refer to http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=191454&NewsType=1&Template=1
싼야민공- Phomthong's LiveTV 3G+ Online
phomthong on livestream.com. Broadcast Live Free
การทำศาสนสัมพันธ์ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
" ศาสนสัมพันธ์ เป็นการเสวนาระหว่างศาสนาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีต่อกัน และเพื่อความดี ร่วมกันเน้นการ เสวนา และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน และองค์กรต่างๆ รวมไปถึงการรักษาไว้ซึ่งคุณค่าของขนมธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ของท้องถิ่นด้วย "
คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้จัดการแผนกศาสนสัมพันธ์ ฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูต
"ในสถานศึกษาหรือโรงเรียนต่างๆ ควรมีฝ่ายจิตตาภิบาล สนับสนุนให้ทุกคนเป็นศาสนิกที่ดีในศาสนาของตน เพื่อนำสู่การทำศาสนสัมพันธ์ โดย
•ปลูกฝังความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนสัมพันธ์ การเสวนากับผู้ต่างความเชื่อ
•ส่งเสริมการเสวนาระหว่างศาสนาในทุกระดับ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เคารพให้เกียรติและร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมที่มีความยุติธรรม สันติสุข และความเป็น พี่น้องกัน
Dekdee Club Chat
Sunday, 15 March 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
วันเด็กแห่งชาติ
- ความหมายของเด็ก ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า "เด็ก" ไว้ คือ "เด็ก" หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก อ่อนวัน เช่น เด็กชาย คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ และ เด็กหญิง คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี บริบูรณ์
- ประวัติความเป็นมาของวันเด็กแห่งชาตินั้น วันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป (วันจันทร์) มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
- กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันเด็กแห่งชาติ *ให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณค่าบทบาท และความสำคัญของตนเอง *เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น ในโรงเรียน หมู่บ้าน หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน *เด็ก คือ ทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า และมั่นคงอีกทั้งเป็นผู้ที่จะต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เพื่อทำหน้าที่ดูแลสังคมตลอดจนเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความเปลี่ยนแปลง และอื่น ๆ ฯลฯ *ดังนั้น ทุกสังคมจึงให้ความสำคัญแก่เด็ก และจัดให้มีวันเด็กขึ้นทุกปี เพื่อให้เด็กรู้ถึงความสำคัญของตนเอง จะได้ประพฤติปฏิบัติตนให้สมกับเป็นผู้ที่มีความสำคัญของประเทศชาติ ด้วยการตั้งใจใฝ่ศึกษาเรียนรู้ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย รู้จักการใช้เวลา ความคิด มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ และซื่อสัตย์สุจริต ฯลฯ
- ดาวน์โหลดเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี* เพลง หน้าที่ของเด็ก หรือเรียกกันติดปากว่าเพลง เด็กเอ๋ยเด็กดี เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเตือนใจเด็กและเยาวชน เพื่อให้ระลึกถึงสิ่งที่ตนควรทำ ประพันธ์เนื้อร้องโดย ชอุ่ม ปัญจพรรค์ และทำนองโดย เอื้อ สุนทรสนาน เพลงนี้มักเปิดในช่วงวันเด็กแห่งชาติ * เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน หนึ่ง นับถือศาสนา สอง รักษาธรรมเนียมมั่น สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน ห้า ยึดมั่นกตัญญู หก เป็นผู้รู้รักการงาน เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน แปด รู้จักออมประหยัด เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนา จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
No comments:
Post a Comment