ป.ปลานั้นหายาก
1 วันกับการประหยัดพลังงานสำหรับเยาวชน..รวมพลังหาร 2
" เช้าวันนี้แสนสดใส น้องแป้งตื่นแต่เช้าด้วยความสดชื่น หลังจากที่ได้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ได้เวลาไปโรงเรียนแล้ว
น้องแป้ง เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นของโรงเรียนแห่งหนึ่ง เป็นเด็กขยัน ชอบเรียนหนังสือ
ชอบค้นคว้า และอ่านหนังสือจากห้องสมุด เป็นคนช่างสังเกต และชอบเรียนรู้เรื่องราวที่น่าสนใจ
ในชีวิตประจำวัน
สำนวนหนึ่งที่น้องแป้งเคยอ่านเจอในหนังสือ และคอยเตือนใจให้น้องแป้งใช้พลังงานและทรัพยากรต่างๆ
อย่างประหยัด คือ
" ป...ปลานั้นหายาก ต้องลำบากออกเรือไป
ขนส่งจากแดนไกล ใช้น้ำแข็งเปลืองน้ำมัน
แช่เย็นก็เสียไฟ หุงต้มไซร้ก๊าซทั้งนั้น
พลังงานต้องหมดกัน โอ้ลูกหลานจำจงดี"
เรือประมงต้องใช้น้ำมัน น้ำแข็งก็ต้องใช้พลังงานในการผลิต
การปรุงอาหารก็ต้องใช้ก๊าซหุงต้ม รถขนส่งอาหารก็ต้องใช้น้ำมัน...
น้องแป้งเข้าใจสำนวนดีว่า กว่าทุกคนจะได้ทานปลาหรืออาหารทะเลต่าง ๆ นั้น
เรือประมงต้องเติมน้ำมันออกไปหาปลาหรืออาหารเหล่านั้นถึงกลางทะเล
เมื่อจับปลาได้แล้ว ต้องใช้น้ำแข็งแช่ปลาที่จับได้
น้ำแข็งนี้ก็ได้มาจาก การใช้พลังงานผลิตน้ำให้เป็นน้ำแข็ง
เมื่อเรือประมงเทียบท่าริมทะเล ก็ต้องมีรถเพื่อ ลำเลียงขนส่งปลาและอาหารทะเลเหล่านี้
กระจายไปตามท้องตลาดหรือจังหวัดต่างๆ ซึ่งล้วนต้องใช้พลังงานน้ำมันทั้งสิ้น
กว่าเราจะได้รับประทานปลาและอาหารทะเลเหล่านี้ ก็ต้องใช้พลังงานก๊าซหุงต้ม ทำให้สุกก่อน
จึงจะรับประทานได้
เห็นไหมว่า เราต้องสิ้นเปลืองพลังงานไปมากมายเพียงใด กว่าจะได้อาหารมารับประทาน
ดังนั้น เราจึงควรตักอาหารในปริมาณที่พอเหมาะ สำหรับรับประทานแต่พออิ่ม
ไม่ควรตักเผื่อ ไม่ควรตักเกิน และไม่เหลือทิ้งขว้างให้สูญเปล่า
ตัวอย่างข้างต้นนี้ ทำให้เราเห็นถึงการใช้พลังงานที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจำวันของเรา ยังมีการใช้พลังงาน
ในลักษณะอื่นๆ อีกมากมายในชีวิตประจำวันที่พวกเราควรจะร่วมกันใช้อย่างประหยัด
และใช้อย่างมีประสิทธิภาพ
" ตักอาหารแค่พอดี ไม่เหลือทิ้ง ควรตักอาหารแต่พออิ่ม"
싼야민공- Phomthong's LiveTV 3G+ Online
phomthong on livestream.com. Broadcast Live Free
การทำศาสนสัมพันธ์ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
" ศาสนสัมพันธ์ เป็นการเสวนาระหว่างศาสนาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีต่อกัน และเพื่อความดี ร่วมกันเน้นการ เสวนา และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน และองค์กรต่างๆ รวมไปถึงการรักษาไว้ซึ่งคุณค่าของขนมธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ของท้องถิ่นด้วย "
คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้จัดการแผนกศาสนสัมพันธ์ ฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูต
"ในสถานศึกษาหรือโรงเรียนต่างๆ ควรมีฝ่ายจิตตาภิบาล สนับสนุนให้ทุกคนเป็นศาสนิกที่ดีในศาสนาของตน เพื่อนำสู่การทำศาสนสัมพันธ์ โดย
•ปลูกฝังความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนสัมพันธ์ การเสวนากับผู้ต่างความเชื่อ
•ส่งเสริมการเสวนาระหว่างศาสนาในทุกระดับ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เคารพให้เกียรติและร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมที่มีความยุติธรรม สันติสุข และความเป็น พี่น้องกัน
Dekdee Club Chat
Thursday, 19 March 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
วันเด็กแห่งชาติ
- ความหมายของเด็ก ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า "เด็ก" ไว้ คือ "เด็ก" หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก อ่อนวัน เช่น เด็กชาย คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ และ เด็กหญิง คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี บริบูรณ์
- ประวัติความเป็นมาของวันเด็กแห่งชาตินั้น วันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป (วันจันทร์) มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
- กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันเด็กแห่งชาติ *ให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณค่าบทบาท และความสำคัญของตนเอง *เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น ในโรงเรียน หมู่บ้าน หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน *เด็ก คือ ทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า และมั่นคงอีกทั้งเป็นผู้ที่จะต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เพื่อทำหน้าที่ดูแลสังคมตลอดจนเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความเปลี่ยนแปลง และอื่น ๆ ฯลฯ *ดังนั้น ทุกสังคมจึงให้ความสำคัญแก่เด็ก และจัดให้มีวันเด็กขึ้นทุกปี เพื่อให้เด็กรู้ถึงความสำคัญของตนเอง จะได้ประพฤติปฏิบัติตนให้สมกับเป็นผู้ที่มีความสำคัญของประเทศชาติ ด้วยการตั้งใจใฝ่ศึกษาเรียนรู้ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย รู้จักการใช้เวลา ความคิด มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ และซื่อสัตย์สุจริต ฯลฯ
- ดาวน์โหลดเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี* เพลง หน้าที่ของเด็ก หรือเรียกกันติดปากว่าเพลง เด็กเอ๋ยเด็กดี เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเตือนใจเด็กและเยาวชน เพื่อให้ระลึกถึงสิ่งที่ตนควรทำ ประพันธ์เนื้อร้องโดย ชอุ่ม ปัญจพรรค์ และทำนองโดย เอื้อ สุนทรสนาน เพลงนี้มักเปิดในช่วงวันเด็กแห่งชาติ * เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน หนึ่ง นับถือศาสนา สอง รักษาธรรมเนียมมั่น สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน ห้า ยึดมั่นกตัญญู หก เป็นผู้รู้รักการงาน เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน แปด รู้จักออมประหยัด เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนา จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
No comments:
Post a Comment