ขยันอดทน รักษาเครดิต คบคนดี อย่าเอาเปรียบใคร และไม่สร้างศัตรู
คำสอนจากนายห้าง ดร.เทียม โชควัฒนา
ชีวิต คือ การต่อสู้ แต่ต้องเป็นชีวิตของการต่อสู้ที่ขาวสะอาด ให้คนยกย่อง
การต่อสู้ในสนามรบของธุรกิจ ต้องยึดหลักปรัชญาอันเป็นสัจธรรม 5 ประการ
ต้องเชื่อมั่นในความขยันและอดทน
คนเราต้องทำงานหนักไปก่อน แล้วจึงค่อยไปสบายทีหลัง
คนเราถ้าหากรู้จักขวนขวายยอมทำงานยากบ่อยๆ เข้า ก็ย่อมเก่งและได้ดีในที่สุด
และในช่วงระยะเวลาต่อมา จะก่อให้เกิดความพร้อม ต่อสู้กับอะไรๆ ที่มาทีหลังได้ง่ายขึ้น
งานยิ่งหนักเพียงใด ก็ยิ่งเป็นกำไรของชีวิต
ลูกผู้ชายต้องรักสัจจะ อย่าคิดคดโกง หรือผิดสัญญากับใคร
เมื่อจะทำการใดหรือรับปากกับใครแล้ว ต้องทำให้ได้ตามที่พูด หากว่า ทำไม่ได้ อย่าไปรับปากเป็นเด็ดขาด
การเป็นคนที่รักษาสัจวาจาอยู่เสมอ จะทำให้มีเครดิตดี
อยากก้าวหน้าต้องดำเนินชีวิตอย่างผู้ที่หลุดพ้นจากอบายมุข
ต้องคบแต่เพื่อนที่เป็นคนมีความคิดที่ดี
คนเราสำคัญที่สิ่งแวดล้อม เพราะสิ่งแวดล้อมที่ดีทำให้ผีเป็นคน
สิ่งแวดล้อมมืดมนทำให้คนกลายเป็นผี
อย่าเป็นคนที่มีปัญหาครอบครัว พนักงานที่เราจะเลือกทำงาน ต้องเป็นคนที่รับผิดชอบครอบครัว
แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นตัวของตัวเอง มีอิสรภาพทำงานได้อย่างเต็มความสามารถ
" งานยิ่งหนักเพียงใด ก็ยิ่งเป็นกำไรของชีวิต จำไว้เสมอว่า การค้ามีคู่แข่ง แต่ไม่มีคู่แค้น"
เป็นนักธุรกิจอย่าเอาเปรียบใคร
การทำสินค้าขายต้องมีความต้องการให้สินค้าของเราสร้างความสุขให้กับผู้บริโภคอย่างจริงจัง
การมีน้ำใจเป็นเรื่องสำคัญ
การบริหารพนักงานอย่างเข้าใจความต้องการ
การเจริญเติบโตของพนักงานทุกคน คือ การไม่เอาเปรียบลูกน้อง
ไม่สร้างศัตรู
แม้แต่ในการแข่งขันทางธุรกิจ ต้องจำไว้เสมอว่า "การค้ามีคู่แข่ง แต่ไม่มีคู่แค้น"
เพราะการทำให้คนอื่นขุ่นเคืองใจนั้น ย่อมทำให้พวกเขาเกิดความโกรธแค้น
และเมื่อนั้นพวกเขาอาจจะพยายามคิดหาหนทางแก้แค้นอยู่ร่ำไป
ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดเลย จงพยายามที่จะผูกมิตรกับทุกๆ คนด้วยความจริงใจ
싼야민공- Phomthong's LiveTV 3G+ Online
phomthong on livestream.com. Broadcast Live Free
การทำศาสนสัมพันธ์ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
" ศาสนสัมพันธ์ เป็นการเสวนาระหว่างศาสนาเพื่อสร้างความสัมพันธ์และความเข้าใจที่ดีต่อกัน และเพื่อความดี ร่วมกันเน้นการ เสวนา และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่าง บ้าน วัด โรงเรียน ชุมชน และองค์กรต่างๆ รวมไปถึงการรักษาไว้ซึ่งคุณค่าของขนมธรรมเนียมประเพณี วัฒนธรรม และภูมิปัญญา ของท้องถิ่นด้วย "
คุณพ่อสมเกียรติ บุญอนันตบุตร ผู้จัดการแผนกศาสนสัมพันธ์ ฝ่ายงานอภิบาลและธรรมทูต
"ในสถานศึกษาหรือโรงเรียนต่างๆ ควรมีฝ่ายจิตตาภิบาล สนับสนุนให้ทุกคนเป็นศาสนิกที่ดีในศาสนาของตน เพื่อนำสู่การทำศาสนสัมพันธ์ โดย
•ปลูกฝังความเข้าใจเกี่ยวกับศาสนสัมพันธ์ การเสวนากับผู้ต่างความเชื่อ
•ส่งเสริมการเสวนาระหว่างศาสนาในทุกระดับ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน เคารพให้เกียรติและร่วมมือกันสร้างสรรค์สังคมที่มีความยุติธรรม สันติสุข และความเป็น พี่น้องกัน
Dekdee Club Chat
Monday, 16 March 2009
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
วันเด็กแห่งชาติ
- ความหมายของเด็ก ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า "เด็ก" ไว้ คือ "เด็ก" หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก อ่อนวัน เช่น เด็กชาย คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ และ เด็กหญิง คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี บริบูรณ์
- ประวัติความเป็นมาของวันเด็กแห่งชาตินั้น วันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป (วันจันทร์) มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
- กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันเด็กแห่งชาติ *ให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณค่าบทบาท และความสำคัญของตนเอง *เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น ในโรงเรียน หมู่บ้าน หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน *เด็ก คือ ทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า และมั่นคงอีกทั้งเป็นผู้ที่จะต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เพื่อทำหน้าที่ดูแลสังคมตลอดจนเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความเปลี่ยนแปลง และอื่น ๆ ฯลฯ *ดังนั้น ทุกสังคมจึงให้ความสำคัญแก่เด็ก และจัดให้มีวันเด็กขึ้นทุกปี เพื่อให้เด็กรู้ถึงความสำคัญของตนเอง จะได้ประพฤติปฏิบัติตนให้สมกับเป็นผู้ที่มีความสำคัญของประเทศชาติ ด้วยการตั้งใจใฝ่ศึกษาเรียนรู้ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย รู้จักการใช้เวลา ความคิด มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ และซื่อสัตย์สุจริต ฯลฯ
- ดาวน์โหลดเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี* เพลง หน้าที่ของเด็ก หรือเรียกกันติดปากว่าเพลง เด็กเอ๋ยเด็กดี เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเตือนใจเด็กและเยาวชน เพื่อให้ระลึกถึงสิ่งที่ตนควรทำ ประพันธ์เนื้อร้องโดย ชอุ่ม ปัญจพรรค์ และทำนองโดย เอื้อ สุนทรสนาน เพลงนี้มักเปิดในช่วงวันเด็กแห่งชาติ * เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน หนึ่ง นับถือศาสนา สอง รักษาธรรมเนียมมั่น สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน ห้า ยึดมั่นกตัญญู หก เป็นผู้รู้รักการงาน เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน แปด รู้จักออมประหยัด เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนา จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
No comments:
Post a Comment