อย่าปล่อยชีวิต ให้หมดไปอย่างไร้ค่า
คำสอนจากนายห้าง ดร.เทียม โชควัฒนา
คนเราโดยธรรมชาติแล้ว ย่อมมีวิสัยอยากรู้อยากเห็น อยากมีความสะดวกสบาย
แต่ความอยากรู้อยากเห็นของคนเรานั้นไม่เหมือนกัน
บางคนอยากรู้อยากเห็นในเรื่องที่ไม่เป็นสาระ เป็นการแสวงหาที่สิ้นเปลืองเวลา
เพราะสิ่งที่รู้มานั้น ก็มิอาจนำเอาไปเป็นประโยชน์กับชีวิตหรือกิจการงานใดๆ ของตนได้
อนาคตของคนพวกนี้ ก็จะไม่ก้าวหน้า หรือไม่ก็อาจจะหยุดอยู่กับที่
แต่บางคนก็เป็นคนที่อยากรู้สิ่งที่เป็นสาระ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนากิจการของตน
เปรียบได้กับการศึกษา ค้นคว้าข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์กับกิจการงานและหน้าที่ของตนได้
คนพวกนี้มักจะมีความพร้อม หากกิจการงานที่ทำอยู่เกิดปัญหาใดๆ ก็จะมีข้อมูลนำเอามาวิเคราะห์วินิจฉัย
แก้ไขสิ่งต่างๆ ได้โดยฉับพลัน
ผู้ที่ประพฤติได้อย่างหลังนี้ จะเป็นผู้ที่มีคความเจริญก้าวหน้า อนาคตดี เพราะเป็นคนที่ตัดสินแนวทาง
ในการแก้ปัญหาได้อย่างถูกต้อง เนื่องด้วยเป็นผู้ที่หมั่นเก็บเอาสิ่งที่เป็นสาระประโยชน์มาสะสมไว้กับตน
" คนเราถ้าเข้าใจการจากไป อย่างไม่ย้อนกลับของเวลา ย่อมใช้ชีวิตอย่างมีค่า "
เพื่อนฝูงที่เคยร่วมเรียนกันมานั้น หลายคนเคยเรียนได้คะแนนพอๆ กัน
แต่พอเติบใหญ่ขึ้นกลับมีความคิดความอ่านห่างไกลจากหลายๆ คน
ความแตกต่างช่างดูมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ และคำอธิบายของปรากฎการณ์ดังกล่าวก็คือ
คนเราในเวลาที่เรียนหนังสือในโรงเรียนนั้น ใช้ตำราเรียนเล่มเดียวกัน มีกฎระเบียบคอยควบคุมบังคับ
แต่ยามเติบโตอยู่นอกโรงเรียน เราต้องเข้ามหาวิทยาลัย ชีวิตที่ไม่มีกฎระเบียบมาคอยตามจี้บังคับ
ขึ้นอยู่กับใครจะตักตวงเอาความรู้และประสบการณ์สู่ชีวิตของแต่ละคน
บางคนจึงก้าวทันโลก แต่บางคนก็ก้าวไม่ทัน
คนเราถ้าเข้าใจการจากไป อย่างไม่ย้อนกลับของเวลา ย่อมใช้ชีวิตอย่างมีค่า
หมั่นศึกษาไขว่คว้าหาประสบการณ์ชีวิตเอาไว้ให้ได้มากที่สุด
ด้วยความเข้าใจว่า การศึกษาและประสบการณ์เป็นสุดยอดของผู้รักความก้าวหน้า
No comments:
Post a Comment