싼야민공- Phomthong's LiveTV 3G+ Online
การทำศาสนสัมพันธ์ เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข
Dekdee Club Chat
Tuesday, 27 January 2009
History of the internet
The history is told using the PICOL icons on picol.org , which are available for download soon. On blog.picol.org you can get news about this project.
You can also watch the video on...http://securitycom.blogspot.com
Monday, 26 January 2009
สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส
สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส...
" อัพเดทข่าว สุริยุปราคา หรือสุริยคราส..ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้น ราวสี่โมงเย็นของวันจันทร์ที่ 26 มกราคม 2009 ในวันตรุษจีนปีนี้...หลายคนคงได้ดู โดยอาศัยฟิล์มกรองแสง ป้องกันสายตา..
แล้วมันคือ อะไรกันนะ..มาทบทวนกันได้เลยนะ
สุริยุปราคา หรือ สุริยคราส เกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และโลก โคจรมาอยู่ในแนวเส้นตรงเดียวกันโดยมีดวงจันทร์อยู่ตรงกลาง เมื่อสังเกตจากพื้นโลก จะเห็นดวงจันทร์เคลื่อนเข้ามาบดบังดวงอาทิตย์
สุริยุปราคามี 4 ประเภท ได้แก่
- สุริยุปราคาบางส่วน: มีเพียงบางส่วนของดวงอาทิตย์เท่านั้นที่ถูกบัง
- สุริยุปราคาเต็มดวง: ดวงจันทร์บังดวงอาทิตย์หมดทั้งดวง
- สุริยุปราคาวงแหวน: ดวงอาทิตย์มีลักษณะเป็นวงแหวน เกิดเมื่อดวงจันทร์อยู่ในตำแหน่งที่ห่างไกลจากโลก ดวงจันทร์จึงปรากฏเล็กกว่าดวงอาทิตย์
- สุริยุปราคาผสม: ความโค้งของโลกทำให้สุริยุปราคาคราวเดียวกันกลายเป็นแบบผสมได้ คือ บางส่วนของโลกเห็นสุริยุปราคาเต็มดวง บางส่วนเห็นสุริยุปราคาวงแหวน บริเวณที่เห็นสุริยุปราคาเต็มดวง เป็นส่วนที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์มากกว่า
สุริยุปราคาอาจจัดเป็นการบังกันประเภทหนึ่ง เกิดขึ้นเฉพาะในวันที่ดวงจันทร์มีดิถีตรงกับจันทร์ดับ
การมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าส่งจะผลเสียต่อตา ไม่ว่ามองเวลาใดก็ตาม แม้แต่มองดวงอาทิตย์ขนาดเกิดสุริยุปราคา แต่สุริยุปราคาก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าสนใจและศึกษาอย่างมาก การใช้อุปกรณ์ช่วยในการมอง เช่นกล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ก็ยิ่งทำให้เป็นอันตรายมากยิ่งขึ้นไปอีก
ดังนั้นในการมองดวงอาทิตย์ ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยกรองรังสีบาง ชนิดที่จะเข้าสู่ตา การใช้แว่นกันแดดในการมองเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง เพราะไม่สามารถป้องกันสิ่งที่เป็นอันตราย รวมทั้งรังสีอินฟราเรดที่ตามองไม่เห็นซึ่งจะเป็นอันตรายต่อเรตินาได้ การสังเกตจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ทำมาโดยเฉพาะ จึงจะสามารถมองดวงอาทิตย์ตรงๆ ได้
การสังเกตที่จะปลอดภัยต่อตามากที่สุด คือการฉายแสงจากดวงอาทิตย์ผ่านอุปกรณ์อื่น เช่น กล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ แล้วใช้กระดาษสีขาวมารองรับแสงนั้น จากนั้นมองภาพจากกระดาษที่รับแสง แต่การทำเช่นนี้ต้องมั่นใจว่าไม่มีใครมองผ่านอุปกรณ์นั้นโดยตรง ไม่เช่นนั้นจะทำอันตรายต่อตาของคนนั้นอย่างมาก โดยเฉพาะถ้ามีเด็กอยู่บริเวณนั้นต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม สามารถมองดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่าโดยตรงได้ เฉพาะตอนที่เกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเท่านั้น นอกจากจะไม่เป็นอันตรายแล้ว สุริยุปราคาเต็มดวงยังสวยงามอีกด้วย หากมองขณะเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง ก็จะเห็นชั้นบรรยากาศโคโรนาของดวงอาทิตย์ ในบางครั้งอาจเห็นพวยแก๊สทีพุ่งออกมาจากดวงอาทิตย์ ซึ่งปกติจะไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ควรหยุดมองดวงอาทิตย์ก่อนที่จะสิ้นสุดการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวงเล็กน้อย
Moontra Kid: Ghost City- มูนทรา คิ๊ด โกส์ ซิตี้
Moontra Kid: Ghost City- มูนทรา คิ๊ด โกส์ ซิตี้
ไซเบอร์แพลนเน็ตฯ ร่วมมือกับบริษัท ซีพลัส ดึง Moontra Kid ฮีโร่ในดวงใจของนักเล่นเกมวัยเด็กจาก เกม Moontra Kid ที่รณรงค์การต่อต้านยาเสพติดมาสร้างสรรค์เป็นผลงานพีซีเกมล่าสุดในตอน "Moontra Kid: Ghost City" ใน รูปแบบเกมแนว Adventure และ Moontra Kid: Ghost City Racer ในรูปแบบเกม Racer สามมิติและที่นำเสนอเนื้อหาการผจญภัยของดีโน่ในโลกปีศาจกับเหล่าตัวละครผี ไทย
เกม Moontra Kid: Ghost City เกิดขึ้นจากความร่วมมือของบริษัทไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด และบริษัท ซีพลัส เน็ตเวิร์ค จำกัด ในการร่วมสร้างสรรค์ผลงานพีซีเกมสำหรับกลุ่มนักเล่นเกมวัยเด็กโดยเฉพาะ Moontra Kid: Ghost City มีจุดเด่นที่เหล่าปิศาจในเกมได้รับการออกแบบตัวละครมาจากตัวละครผีไทย เช่น ผีตานี ผีตายท้องกลม พราย กระหัง ผีหัวขาด และสัมพเวสีมาเป็นเหล่าปิศาจของแต่ละฉากที่ดีโน่ต้องต่อสู้เพื่อสามารถข้าม ผ่านฉากต่างๆไปได้อีกทั้งฉากต่างๆภายในเกมได้รับการออกแบบให้มีความเป็นไทย ผสมผสานกันได้อย่างกลมกลืน เช่น ฉากวัดร้าง ทั้งนี้แนวคิดของการนำตัวละครผีไทยมาใส่ไว้ในเกมเพื่อต้องการอนุรักษ์ตำนาน ตัวละครผีไทยซึ่งแต่ละตัวก็จะมีตำนานที่แตกต่างกันและสืบทอดกันมานานหลาย ชั่วอายุคน
นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท ไซเบอร์แพลนเน็ต อินเตอร์แอคทีฟ จำกัด กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า "เกม Moontra Kid: Ghost City มีจุดเด่นที่มีการนำเสนอตัวละครผีไทยให้นักเล่นเกมวัยเด็กได้รู้จักในรูปแบบ ของเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งตัวละครดังกล่าวได้รับการออกแบบให้มีจุดเด่นที่แตกต่างกันและไม่แสดงถึง ความน่ากลัวหรือความรุนแรงที่แฝงไว้ในเกม ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดของไซเบอร์แพลนเน็ตฯ ที่ต้องการสร้างสรรค์เกมที่สอดแทรกความเป็นไทยและไม่เป็นอันตรายต่อผู้เล่น อีกทั้งเป็นการฝึกทักษะและไหวพริบให้กับผู้เล่นได้อีกทางหนึ่ง"
นายสุนทร สุขเจริญยิ่งยง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีพลัสเน็ตเวิร์ค จำกัด กล่าวว่า "ซีพลัสมีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับไซเบอร์แพลนเน็ตฯ ในการนำตัวละคร Moontra Kid ซึ่งเป็นฮีโร่ของเด็กหลายๆ คนมาสร้างสรรค์เป็นเกมพีซีตอน Ghost City ซึ่งขณะนี้ไซเบอร์แพลนเน็ตฯ และซีพลัสได้ส่งเกม Moontra Kid ลงตลาดเกมพีซีเด็กซึ่งประกอบไปด้วย Moontra Kid: Ghost City และ Moontra Kid: Ghost City Racer เพื่อเอาใจกลุ่มเด็กๆ ที่ชื่นชอบ Moontra Kid โดยเฉพาะ และทางซีพลัสคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มแฟนๆ เกมนี้เป็นอย่างดี"
เตรียมพบกับความสนุกสนานและความบันเทิงจากเกม Moontra Kid: Ghost City ได้ที่ร้านตัวแทนจำหน่ายซีพลัส (C-Plus) ทุกสาขาในราคากล่องละ 250 บาท หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มสามารถไปดูได้ที่ www.cplusnetwork.com หรือ โทร.0-2632-1075
Tuesday, 6 January 2009
Let's learn Korean! #1
Lesson notes:
안녕하세요.
저는...입니다.
처음 뵙겠습니다.
*edit
A student asked me to write all the dialogues up, so I rewritten everything with a bit more details and explanation. The names and dialogues are a bit different, but basically still the same. Please enjoy!
Lesson #1: A friendly introduction
Politeness: formal/standard
1) 앤디: 설비씨.
2) 설비: 앤디씨. 안녕하세요.
3) 앤디: 안녕하세요. 저는 박앤디입니다. 처음 뵙겠습니다.
4) 설비: 안녕하세요. 김설비입니다. 처음 뵙겠습니다. 저는 학생입니다. 앤디씨는 선생님입니다.
1) 앤디: Solbi
2) 설비: Andy. Hello
3) 앤디: Hello I'm Andy Park. Nice to meet you.
4) 설비: Hello. I'm Solbi Kim. Nice to meet you. I'm a student. Andy is a teacher.
Lesson notes
For those who are new with the Korean language. Koreans, Japanese and Chinese people always put the family name in front of the given name, because the family name is more important.
씨 -- honorific suffix
있다 -- to be
입니다 -- to be
저 -- I (humble)
나 -- I (casual)
는 -- topic marking particle; it marks that the word in front of it is the topic.
처음 뵙겠습니다 -- Nice to meet you (when you meet someone for the first time)
학생 -- student
선생님 - teacher
Korean/Japanese/Chinese/English: Language is Fun!
made this video to practice my Chinese :) My name is 선현우 (Hyunwoo Sun) and I love learning new languages! You can see more stuff and subscribe to my podcast at http://why-be-normal.com
If you're interested in learning Korean, you can also find some info on my blog or at http://koreanclass101.com :)
Hope you'll enjoy watching this video!
(And please let me know if I made mistakes - all feedback is welcome ^_^!!!) Thanks a lot in advance!
Chinese Japanese 중국어 일본어 영어 어학 외국어 languages 선현우 .
-韓国語なまりのある日本語だけど、
会話には支障のない日本語の発音だと思います。
-三种语言一起学啊? 厉害!
-很好,就是汉语说的不太流利
-부러워요...
-日本語の発音もお上手ですねえ。
-どうもありがとうございます!
-Wow 잘하시네요.....전부.....
-很有意思~
- 不错哦!我想学习日语...学过韩语了,英语也还好..有朋友
เพลงลูกทุ่งยอดฮิต Music Top Hit Looktung
เพลงลูกทุ่งยอดฮิต จากลูกทุ่งมหานคร
อันดับ เพลง
1 ดาวมหาลัย : สาวมาด เมกะแดนซ์
2 เหตุผลที่ทนเจ็บ : ต่าย อรทัย
3 จ้างมันเต๊อะ : กระแต
4 สุสานหัวใจ : พจน์ สุวรรณพันธ์
5 สะดวกคุยหรือเปล่า : เอิร์น เดอะสตาร์
6 ดูถั๊วะ ดูถั๊วะ : แสน นากา
7 มาที่หลังหวังแต่ง : นุ้ย สุวีณา
8 นางฟ้า : ทรงกลด ฌามา
9 คนบ้านเดียวกัน : ไผ่ พงศธร
10 คิดถึงจัง : ออย อารยา
11 มีคนเหงารออยู่เบอร์นี้ : ตั๊กแตน ชลดา
12 ยังรักกันอยู่ไหม : กล้วย แสตมป์
13 ใจบ่่มักดี : ไหมไทย ใจตะวัน
14 หนุ่มเมืองเพชร : ไชโย ธนาวัฒน์
15 มันต้องถอน : ปอยฝ้าย มาลัยพร
16 ไอ้หนุ่มหน้าบ้าน : ไชโย ธนาวัฒน์
17 แมลงเม่าเหงาใจ : บ่าววี
18 อย่ากึ๊ดนัก : แคท รัตกาล
19 นกหาฟ้า : บ่าววี
20 ขอบคุณที่เธอทิ้ง : พจน์ สุวรรณพันธ์
กำเนิดเพลงวันเด็ก..เพลงหน้าที่เด็ก (เด็กเอ๋ย..เด็กดี)
สำหรับเพลงเด็กดีนี้ ประพันธ์คำร้องโดยครูชอุ่ม ปัญจพรรค์ นักเขียนนวนิยายชื่อดังคนหนึ่งของไทย ท่านเป็นพี่สาวของครูอาจินต์ ปัญจพรรค์ ศิลปินแห่งชาติ ท่านได้เล่าถึงที่มาของเพลงดังกล่าวว่า เมื่ออดีตท่านเป็นคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติคน หนึ่งของกระทรวงศึกษาธิการ มีอยู่ปีหนึ่งที่ทางสหประชาชาติได้ประกาศปฏิญญาสากลว ่าด้วยหน้าที่ของเด็ก ท่านจึงได้นำเนื้อหาดังกล่าวมาแต่งเป็นกลอนให้คล้องจ องกัน และขอให้ครูเอื้อ สุนทรสนานแต่งทำนองให้ จากนั้น ก็ได้มีการนำเพลงนี้ไปเปิดทางสถานีวิทยุกรมประชาสัมพ ันธ์ในวันเด็กแห่งชาติทุกปี แต่ต่อมาเพลงนี้ก็ได้ค่อยๆหายไป
การที่เพลงดังกล่าวได้ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาอีกครั้ง ก็เนื่องจากทางสำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม ได้พิจารณาเห็นว่า เนื้อเพลงเด็กดี มีสาระสอดรับกับการสร้างค่านิยมที่พึงประสงค์ในสังคม ไทย อีกทั้งยังเป็นคำสอนที่ร่วมสมัยสอดคล้องกับหลักปรัชญ าเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ดังนั้น จึงได้ร่วมกับบมจ.อสมท จัดทำสปอตเพลงเด็กดี ขึ้นอีกครั้ง เพื่อเผยแพร่ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี เพราะเห็นว่าโทรทัศน์เป็นสื่อที่เข้าถึงเด็ก เยาวชน และแม้แต่ประชาชนทั่วไปได้เป็นอย่างดี
ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน ได้ให้ความหมายของคำว่า “ดี” ว่าหมายถึง มีลักษณะที่เป็นไปในทางที่ต้องการ หรือน่าปรารถนา น่าพอใจ ส่วนคำว่า “คนดี” หมายถึง คนที่มีคุณความดี คนที่มีคุณธรรม ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งคำว่า ดี และคนดี ล้วนเป็นนามธรรม ยากแก่การเฉพาะเจาะจงลงไป สิ่งที่ “ดี”หรือ “คนดี” ในความคิดของคนๆหนึ่ง อาจจะแตกต่างกันไปตามสถานการณ์ และประสบการณ์ความรู้ของแต่ละคน ดังนั้น การที่กำหนดหน้าที่ของ “เด็กดี” ว่ามีอยู่ด้วยกันสิบประการข้างต้น จึงเป็นเสมือนเครื่องชี้แนะแนวทางอย่างเป็นรูปธรรมว่ า หากต้องการเป็น “เด็กดี” ควรปฏิบัติตนเช่นไรบ้าง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น หน้าที่สิบประการดังกล่าวก็มิใช่เกณฑ์ที่ตายตัว ถือว่าเป็นแนวทางปฏิบัติอย่างกว้างๆเท่านั้น และเพื่อความชัดเจนยิ่งขึ้น กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอขยายความคิดในการปฏิบัติตนของแต่ละข้อเพิ่มเติม ดังนี้
หนึ่ง นับถือศาสนา โดยทั่วไปคนเราต้องนับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่งตามความเช ื่อของตน หรือครอบครัวอยู่แล้ว แต่การนับถือศาสนาในที่นี้ มิได้หมายเพียงแต่การนับถือตามลายลักษณ์อักษร แต่ต้องเป็นการเคารพด้วยความศรัทธา และยึดมั่นต่อการปฏิบัตตนเป็นศาสนิกชนที่ดีตามหลักกา รของศาสนานั้นๆด้วย เช่น ถือศีลห้าตามหลักพุทธศาสนา ไม่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ไม่ลักขโมยเขา เป็นต้น
สอง รักษาธรรมเนียมมั่น คือ การปฏิบัติตนตามขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามของไทย เช่น มีสัมมาคารวะต่อผู้ใหญ่ หรือผู้อาวุโสกว่า รู้จักไปลามาไหว้ และไม่ชิงสุกก่อนห่าม เป็นต้น
สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ เพราะพ่อแม่ครูอาจารย์เป็นผู้มีพระคุณ และเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ในเรื่องต่างๆมาก่อน ดังนั้น สิ่งที่ท่านสอนจึงเป็นความหวังดีที่มุ่งให้ลูกหรือลู กศิษย์ก้าวไปสู่ความสำเร็จ และความเจริญก้าวหน้าในชีวิต หากเรื่องใดเห็นว่าท่านเข้าใจผิด ก็ควรค่อยๆชี้แจง ไม่ก้าวร้าวหรือลบลู่ท่าน
สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน นั่นคือ ปิยวาจา อันเป็นคำพูดที่สุภาพ ฟังแล้วรื่นหู ไม่พูดจาหยาบคาย กระโชกโฮกฮาก หรือทำน้ำเสียงดูหมิ่นดูแคลน แม้แต่กับเพื่อนสนิทหรือคนใกล้ชิด เพราะคนเราทุกคนย่อมอยากได้ยินได้ฟังคนที่พูดจาดีกับ ตัวเรา และนอกจากพูดเพราะแล้ว ยังควรพูดดี มีสาระ ไม่เพ้อเจ้อ หรือกล่าววาจาส่อเสียดให้คนอื่นเจ็บช้ำน้ำใจ ข้อสำคัญ ต้องรักษาคำพูด มีสัจจะวาจา ไม่โกหกหลอกลวงคนอื่นๆ เพราะจะทำให้เราไม่เป็นที่เชื่อถือ
ห้า ยึดมั่นกตัญญู เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะคนเรานั้นต้องมีความกตัญญูรู้คุณต่อผู้ที่มีพระ คุณกับเรา ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ครูอาจารย์ ญาติสนิทมิตรสหาย หรือผู้เคยให้ความช่วยเหลือ ทางพุทธศาสนายังกล่าวไว้ว่า “ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี” คนที่มีความกตัญญู ไปไหนๆก็จะมีแต่คนเมตตาให้ความรักความเอ็นดู หรือหากเราตกอยู่ในความทุกข์ยากเดือดร้อน เขาก็จะเต็มใจช่วยเหลือเรา
หก เป็นผู้รู้รักการงาน หมายถึง ให้มีความขยันหมั่นเพียร มีความรัก ความเอาใจใส่ที่จะศึกษาหาความรู้ทั้งในเรื่องการเรีย น และการช่วยเหลือพ่อแม่ทำงานบ้าน หรือช่วยประกอบการอาชีพ โดยไม่ดูดาย หรือทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะการรักการงานจะทำให้เราได้เรียนรู้ และมีวิชาความรู้เพิ่มขึ้น อีกทั้งยังช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ สอนให้เรามีความรับผิดชอบทั้งในด้านการศึกษา และการดำรงชีวิตต่อไปในอนาคตด้วย
เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมานะบากบั่นไม่เกียจไม่คร้าน เมื่อเป็นเด็ก มีหน้าที่ศึกษาเล่าเรียน เราก็ต้องเล่าเรียนด้วยความขยันขันแข็ง ต้องศึกษาให้รู้จริง มีความมุมานะ ไม่ท้อถอยหรือเกียจคร้านเสียก่อน การที่เราเรียนอะไรให้รู้จริง จะทำให้เรามีฐานความรู้ที่แม่นยำ และมีประโชน์ต่อการประกอบอาชีพในภายหน้า ขณะเดียวกันการมีมานะบากบั่น ก็จะสอนให้เราเป็นคนอดทน ไม่ท้อถอย อันจะทำให้เราประสบความสำเร็จในชีวิต และเกิดความภาคภูมิใจในตนเอง
แปด รู้จักออมประหยัด ข้อนี้ก็สำคัญไม่น้อย เพราะการรู้จักเก็บออม จะช่วยให้เรามีเงินสำรองไว้ใช้ยามฉุกเฉิน หรือมีเงินไว้จับจ่ายใช้สอยในคราวจำเป็น โดยไม่ต้องหยิบยืมใครให้เป็นหนี้สิน โดยเฉพาะภาวะปัจจุบันที่มีสินค้าอุปโภคบริโภคมากมายท ี่ล้วนโฆษณาชักจูงให้เราเกิดความอยากได้ ทั้งๆหลายอย่างก็เป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือย ไม่จำเป็น
เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ความซื่อสัตย์ก็เช่นเดียวกับความกตัญญูที่ทุกคนต้องม ีไม่ว่ากับคนนอกหรือคนในครอบครัว เพื่อนฝูง ฯลฯ เพราะความซื่อสัตย์ จะทำให้คนเรามีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน คบกันก็มีความสุข ไม่ต้องหวาดระแวง กลัวเขาจะทรยศ หรือคิดคดหักหลัง คนที่ไม่ซื่อสัตย์จะไม่มีวันได้รับความซื่อสัตย์จากค นอื่น และมักทุกข์ใจตลอดเวลา เพราะกลัวว่าคนอื่นจะคิดไม่ซื่อกับตนบ้าง และขณะเดียวกัน คนเราก็ต้องมีน้ำใจนักกีฬา คือ ต้องรู้จักแพ้ รู้จักชนะ รู้จักให้อภัยคนอื่นด้วย
สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา ไม่ว่าอยู่โรงเรียน หรือที่บ้านก็ให้ทำตัวให้เป็นประโยชน์ เช่น ช่วยครูติวเพื่อนที่เรียนอ่อน ช่วยซื้อกับข้าวให้พ่อแม่ หรือช่วยเลี้ยงน้อง ฯลฯ และในขณะเดียวกันก็ต้องรู้จักประพฤติปฏิบัติตนให้เป็ นคนดี ไม่หลงติดอบายมุขหรือยาเสพติด และต้องช่วยกันรักษาสมบัติของชาติ ไม่ว่าจะเป็นขนบธรรมเนียมที่ดีงาม หรือโบราณสถานโบราณวัตถุ ฯลฯ ไม่ไปทำลายหรือขีดเขียนเล่นด้วยความคะนอง ต้องประพฤติตนให้มี “จิตสาธารณะ” คือ ใช้ของส่วนรวมด้วยความระมัดระวัง เช่นเดียวกับของๆ เราเอง
เพลงวันเด็กแห่งชาติ...เพลงหน้าที่เด็ก (เด็กเอ๋ย..เด็กดี)
เพลง..เด็กเอ๋ย เด็กดี
เพลง..หน้าที่เด็ก
เด็กเอ๋ย..เด็กดี ต้องมีหน้าที่ ๑๐ อย่างด้วยกัน
เด็กเอ๋ย..เด็กดี ต้องมีหน้าที่ ๑๐ อย่างด้วยกัน
หนึ่ง...นับถือศาสนา
สอง...รักษาธรรมเนียมมั่น
สาม...เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์
สี่...วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน
ห้า...ยึดมั่นกตัญญู
หก...เป็นผู้รู้รักการงาน
เจ็ด...ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน
แปด...รู้จักออมประหยัด
เก้า...ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาล สมัยชาติพัฒนา
สิบ...บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา
เด็กสมัยชาติพัฒนา จะเป็นเด็กที่พา ชาติไทยเจริญ
เด็กเอ๋ย..เด็กดี ต้องมีหน้าที่ ๑๐ อย่างด้วยกัน
เด็กเอ๋ย..เด็กดี ต้องมีหน้าที่ ๑๐ อย่างด้วยกัน
เพลงวันครู : ครูในดวงใจ : ไมค์ ภิรมย์พร
ครูในดวงใจ
ของ ไมค์ ภิรมย์พร
ปา เจ รา จริยา โหน ติ
คุนุตรา นุสา สกา
ปากกาหัวใจ เขียนชื่อครูไว้บูชา
จารึกพระคุณสูงผู้นำวิชามาให้
เป็นศิษย์มีครูจึงยืนสู้อย่างผู้มีชัย
คุณครูชี้นำทางใจ จึงทำให้ศิษย์มีวันนี้
ภาพครูแสนดียังติดตรึงที่ดวงใจ
เป็นผู้มีแต้ให้มีหัวใจสู้งานเต็มที่
รักศิษย์ทุกคนไม่เคยบ่นจนหรือมั่งมี
จับชอล์คเขียนคุณความดีจับมือชี้คุณธรรม
ครูทำงานหนักแต่ก็รักศักดิ์ศรี
พอใจสิ่งที่ตนมีเป็นพิมพ์ดีให้ลูกศิษย์จำ
ทุกเส้นทางสู้ ศิษย์ยึดครูนั้นเป็นผู้นำ
คำสอนทุกอย่างจดจำทุกการกระทำเรียนรู้
ปากกาหัวใจเขียนชื่อครูไว้บูชา
บันทึกความดีสูงค่านำมา เป็นแนวทางสู้
สังคมวุ่นวายขอส่งใจมายืนข้างครู
ครูยัง สังคมจึงอยู่ ศิษย์เชิดชู.... ครูในดวงใจ...
เพลงวันเด็ก "หนูอยากเป็นอะไร"
โดย ธงไชย แมคอินไตย์
ไกลสุดไกล สุดปลายรุ้ง
ดวงตาน้อยน้อยมุ่งมองไปแสนไกล
เด็กน้อยเอย เจ้าฝันเจ้าใฝ่
ฝันถึงสิ่งใด บ้างหนา
หนูหนูเอย หนูน้อย
...ขอถามหนูหน่อย ได้ไหม
...หนูใฝ่หนูฝัน อยากเป็นอะไร
เมื่อหนูโตใหญ่ สิ่งไหน ที่ อยาก เป็น
(ด.ช1)หนูอยากจะเป็นหมอ
รักษาคุณพ่อตอนไม่สบาย
ขอให้หนูได้เป็นหมอ ขอให้สมดังใจ
(ด.ญ1)หนูจะเป็นคุณครูสมที่หนูตั้งใจ
ขอให้เป็นคุณครูสมที่หนูตั้งใจ
(ด.ช2)หนูอยากเป็นทหารนั่งบนรถถัง
ที่คันใหญ่ใหญ่
ขอให้ได้เป็นทหารที่กล้าหาญชาญชัย
(ด.ญ2)หนูจะเป็นพยาบาลคอยดูแลคนไข้
ขอให้เป็นพยาบาล พูดหวานจับใจ
(ด.ช3)หนูจะเป็นตำรวจเป็นผู้หมวดจับผู้ร้าย
ขอให้ได้เป็นตำรวจ เป็นผู้หมวดปืนไว
ไม่ว่าใครจะเป็นอะไร อยากเป็นสิ่งใด
ขอให้สมดังใจได้เป็นอย่างฝัน แต่มีอีกอย่าง
ที่สำคัญ เหนือ สิ่ง ใด นั้น คือเป็น คนดี
ถ้าโตขึ้นไปหนูเป็นคนดี หนูจะมีแต่คนรักใคร่
ทำสิ่งใด จะคิดอะไร หนูจะได้ดังใจ เสมอ
ดวงดาวสายรุ้งจะเป็นเพื่อนเรา
ความหงอยเหงา ก็ไม่เจอะเจอ
เป็นคนดี กันดี ไหมเออ ทำดีเสมอ
ไม่ว่าหนูจะเป็นอะไร
(เด็กหมู่) หนูโตขึ้นไปหนูเป็นคนดี
หนูอยากมีแต่คนรักใคร่
จะทำสิ่งใด จะคิดอะไร หนูคงได้ดังใจ เสมอ
ดวงดาวสายรุ้งจะเป็นเพื่อนเรา
ความหงอยเหงาก็ไม่เจอะเจอ
เป็นคนดี คงดีนะเออ ทำดีเสมอ ตลอดไป
ถ้าโตขึ้นไปหนูเป็นคนดี
หนูจะมีแต่คนรักใคร่
จะทำสิ่งใด จะคิดอะไร หนูจะได้ดังใจ เสมอ
ดวงดาวสายรุ้ง จะเป็นเพื่อนเรา
ความหงอยเหงาก็ไม่เจอะเจอ
เป็นคนดี กันดีไหมเออ ทำดีเสมอ
ไม่ว่าหนูจะเป็นอะไร
(เด็กหมู่)หนูโตขึ้นไปหนูได้เป็นคนดี
หนูจะมีแต่คนรักใคร่
จะทำสิ่งใด จะคิดอะไร หนูก็ได้ดังใจ เสมอ
ดวงดาวสายรุ้ง จะเป็นเพื่อนเรา
ความหงอยเหงาก็ไม่เจอะเจอ
เป็นคนดีคงดีนะเออ ทำดีเสมอ ตลอดไป
(เด็กหมู่)หนูโตขึ้นไปหนูได้เป็นคนดี
หนูจะมีแต่คนรักใคร่
จะทำสิ่งใด จะคิดอะไร หนูก็ได้ดังใจ เสมอ
ดวงดาวสายรุ้ง จะเป็นเพื่อนเรา
ความหงอยเหงาก็ไม่เจอะเจอ
เป็นคนดีคงดีนะเออ ทำดีเสมอ ตลอดไป
Good Idea4: ชุติัปัญโญ / ถึงชีวิตจะสูญเสีย แต่อย่าให้ใจเสียศูนย์
" ถ้าเรารู้จริงๆ ว่า ควรดำรงชีวิตอย่างไร..
จะไม่มีอะไรดีไปกว่า การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยรอยยิ้ม..
เพราะยิ้มจะช่วยให้เรารู้เท่าทันและตั้งมั่น...ที่จะมีชีวิตอย่างสงบและเป็นสุข..
ควรเริ่มต้นวันใหม่ด้วยรอยยิ้ม..
เพราะยิ้มจะช่วยให้วันนั้น เป็นไปอย่างอ่อนโยนและเข้าอกเข้าใจสำหรับตัวเอง"
Good Idea3: 'ปรายพันแสง / รักแรกอ่าน (Love at first read)
" ชีิวิตไม่ได้สำคัญที่ว่า มีใครมารักเรามากมายเท่าไหร่...
เพราะจำนวนไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยกับเรื่องนี้..
มันสำคัญที่ว่า..
เราเคยรู้จักใครอย่างแท้จริง..สักครั้งหรือเปล่า "
ความสุขของกะทิ : ภาพยนตร์ใหม่น่าชมโอกาส วันเด็กแห่งชาติ
ความสุขของกะทิ
ภาพยนตร์ที่เน้นทางด้านความประทับใจเป็นหลัก ซึ่งดัดแปลงจากเรื่องราวในรูปแบบตัวอักษร นำมาโลดแล่นสู่แผ่นฟิล์มกับสุดยอดนวนิยายสั้น รางวัลซีไรท์ปี 2549 ผลงานเขียนของคุณ งามพรรณ เวชชาชีวะ ที่มียอดจำหน่ายในประเทศไทยกว่าสองแสนเล่ม และได้รับลิขสิทธิ์เพื่อแปลและจำหน่ายใน 9 ประเทศ คือ อเมริกา ญี่ปุ่น เกาหลี เยอรมนี ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สเปน อีตาลี และฝรั่งเศส กำลังจะถูกถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์ม โดยกลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์น้องใหม่ “ภาพยนตร์ชูใจ” ผลงานกำกับของ เจนไวย์ ทองดีนอก และการเขียนบทภาพยนตร์ครั้งแรกของ คุณงามพรรณ เวชชาชีวะ กับเรื่องราวของ “กะทิ” เด็กหญิงวัย 9 ขวบ ที่ต้องผ่านประสบการณ์การสูญเสียครั้งสำคัญที่สุด เมื่อแม่ต้องจากไปก่อนวัยอันควร กะทิก็ยังเข้มแข็ง และยังเป็นผู้ตัดสินใจเลือกหนทางชีวิตที่ทำให้ชีวิตของเธอมีความสุขได้เอง
Refer to http://movie.siamsupport.com/review/happiness-of-kati/
ความสุขของกะทิ (หนังสือ)
ความสุขของกะทิ
ความสุขของกะทิ เป็นนวนิยายขนาดสั้น ของ งามพรรณ เวชชาชีวะ ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมแห่งอาเซียน (ซีไรต์) ของประเทศไทย ประจำปี พ.ศ. 2549
ความสุขของกะทิ เล่าเรื่องราวของกะทิ เด็กหญิงวัย 9 ขวบที่กำลังจะต้องสูญเสียแม่ ซึ่งป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง แม่รู้ตัวดีว่าไม่สามารถเลี้ยงดูกะทิได้ จึงฝากกะทิให้ตากับยายเลี้ยง กะทิเติบโตมาด้วยความรักของตาและยาย มีชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านหลังน้อยริมคลองอันอบอุ่น
ผู้เขียน เล่าเรื่องราวของกะทิอย่างเรียบง่าย เนรมิตบ้านริมคลองให้เป็นบ้านในฝัน ที่อบอวลด้วยบรรยากาศอันรื่นรมย์ของอดีต ฉายรายละเอียดสิ่งละอันพันละน้อย ของวิถีชีวิตที่สุขสงบของครอบครัวชนชั้นกลางระดับสูงให้ผู้อ่านประทับใจ
กะทิมีครอบครัวที่เอาใจใส่ ดูแลกะทิด้วยความรัก และความห่วงใยจากใจจริง เธอมีคุณตาที่เคยเป็นทนาย ซึ่งสามารถเรียกเสียงหัวเราะจากกะทิและครอบครัวได้อยู่เสมอๆ คุณยายของกะทิเป็นคนที่เคร่งครัด และหัวโบราณ แต่ถึงกระนั้นก็สอนกะทิเรื่องต่างๆนาๆ อะทิเช่น การทำอาหาร การอยู่ในสังคม เป็นต้น พี่ทองเป็นคนที่เข้าอกเข้าใจกะทิเป็นอย่างดี และเป็นคนที่มีบุญคุณต่อกะทิ เพราะว่าพี่ทองเคยช่วยชีวิตกะทิไว้ตอนกะทิเป็นเด็กเล็ก น้าฏา และน้ากันต์ซึ่งเป็นคนที่ห่วงใยกะทิ และคอยหาสิ่งดีๆให้กะทิอยู่เสมอๆ และเป็นคนที่พูดปลอบใจกะทิในยามที่กะทิเศร้าโศกเสียใจ และที่ขาดไม่ได้ก็คือ แม่ของกะทิ ที่ถึงแม้จะจากไปก่อนวัยอันควรแต่ก็จัดสิ่งต่างๆไว้ให้กะทิอย่างดิบดี ด้วยความรัก และเอาใจใส่จากใจ
แต่ในความสุขมีความเศร้า ในวิถีชีวิตที่สุขสงบนี้ กะทิต้องเผชิญประสบการณ์ทางอารมณ์ที่ต้องสูญเสียแม่ และในความเศร้านั้นก็มีความสุข กะทิไม่คิดจะโหยหาถึงพ่อที่อยู่ไกลโพ้นต่างแดน หากเลือกอยู่ในอ้อมกอดของตากับยาย และผ่านชีวิตอันควรจะทุกข์นั้นด้วยใจที่เข้มแข็ง
เสน่ห์ของนวนิยายขนาดสั้นเรื่องนี้อยู่ที่กลวิธีการเล่าเรื่อง ที่ค่อยๆ เผยปมปัญหาทีละน้อย ๆ อารมณ์สะเทือนใจจะค่อยๆ พัฒนาและดิ่งลึกในห้วงนึกคิดของผู้อ่าน นำพาให้ผู้อ่านอิ่มเอมกับรสแห่งความโศกอันเกษม ที่ได้สัมผัสประสบการณ์ทางอารมณ์ของชีวิตเล็กๆ ในโลกเล็กๆ ของเพื่อนมนุษย์คนหนึ่ง ซึ่งอาจไม่ไกลจากชีวิตจริงของเราเลย
ปัจจุบัน ผู้เขียนได้ตีพิมพ์หนังสือภาคต่อของ ความสุขของกะทิ ชื่อว่า ความสุขของกะทิ ตอน ตามหาพระจันทร์
บทแปลภาษาอังกฤษชื่อ The Happiness of Kati แปลโดยพรูเดนซ์ บอร์ทวิก (Prudence Borthwick) ได้รับรางวัลที่ 2 จากการประกวดงานแปล ประจำปี พ.ศ. 2548 John Dryden Translation Competition จัดโดยสมาคมวรรณคดีเปรียบเทียบแห่งอังกฤษ (British Comparative Literature Association)
Refer to http://th.wikipedia.org/wiki/..
คำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ปีปัจจุบัน 2552
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มอบคำขวัญวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2552 ซึ่งตรงกับวันที่ 10 มกราคม ว่า “ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี”
ประวัติวันเด็กแห่งชาติ
วันเด็กแห่งชาติ มีต้นกำเนิดมาจากการที่องค์การสหประชาชาติทั่วโลกเกิดความตื่นตัว และเห็นพ้องต้องกันว่าควรจะให้ความสำคัญแก่เด็กๆ โดยในปี พ.ศ. 2498 นายวี เอ็ม กุล ผู้แทนองค์การสหพันธ์เพื่อสวัสดิการเด็กระหว่างประเทศ ได้เป็นผู้เสนอต่อกรมประชาสงเคราะห์ ให้มีการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนได้เห็นความสำคัญ และความต้องการของเด็ก รวมถึงเพื่อเป็นการกระตุ้นให้เด็กตระหนักถึงบทบาทอันสำคัญของตนในประเทศ โดยปลูกฝังให้เด็กมีส่วนร่วมในสังคม เตรียมพร้อมให้ตนเองเป็นกำลังของชาติ
ทั้งนี้ การขานรับกับการจัดงานวันเด็กแห่งชาติได้เป็นไปอย่างกว้างขวาง ในปีเดียวกันนั้นเองทั่วโลกไม่น้อยกว่า 40 ประเทศ จัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติของตนขึ้น โดยได้มีการกำหนดว่าจะถือเอาวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปี เป็นวันเด็กแห่งชาติ
สำหรับประเทศไทย ได้ตอบรับข้อเสนอของนายวี เอ็ม กุลกานี ซึ่งบอกผ่านมาทางกรมประชาสงเคราะห์ กระทรวงมหาดไทยว่า ไทยควรจัดงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติ รัฐบาลจึงได้จัดให้มีคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติขึ้นมาคณะหนึ่ง ทำหน้าที่ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาล รัฐวิสาหกิจ และเอกชน กำหนดให้มีการฉลองวันเด็กแห่งชาติทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค จุดประสงค์เพื่อให้เด็กทั่วประเทศทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียน ได้รู้ถึงความสำคัญของตน เกี่ยวกับสิทธิ หน้าที่ ความรับผิดชอบ ระเบียบวินัย ที่มีต่อตนเองและสังคม มีความยึดมั่นในสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข
อย่างไรก็ตาม งานวันเด็กแห่งชาติครั้งแรกของประเทศไทย จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ.2498 จากนั้นเป็นต้นมา ราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ โดยจัดต่อเนื่องกันมาจนถึงปี 2506 ที่ประชุมคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติในปีนั้น ได้มีความเห็นพ้องต้องกันว่าสมควรที่จะเสนอเปลี่ยนวันจัดงานวันเด็กแห่งชาติ เสียใหม่ ด้วยเหตุผลว่า เดือนตุลาคมสำหรับประเทศไทย เป็นเดือนที่ยังอยู่ในฤดูฝน มีฝนตกมาก เด็กๆ ไม่สะดวกในการเดินทางมาร่วมงาน นอกจากนี้วันจันทร์เป็นวันปฏิบัติงานของผู้ปกครองจึงไม่สามารถพาเด็กของตนไป ร่วมงานได้
ด้วยเหตุนี้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเห็นชอบ ในวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2507 ว่า ควรจะเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ที่สองของเดือนมกราคม ที่มีความเหมาะสมและสะดวกมากกว่า ตามที่คณะกรรมการจัดงานวัดเด็กแห่งชาติเสนอมา ส่งผลให้ในปี 2507 ไม่มีงานวันเด็กแห่งชาติด้วยการประกาศเปลี่ยนได้เลยวันมาแล้ว งานวันเด็กแห่งชาติจึงเริ่มจัดขึ้นใหม่อีกครั้งในปี 2508 เรื่อยมาถึงปัจจุบัน
ข้อมูลเพิ่มเติมอีกที่นี่..http://hilight.kapook.com/view/17298
Good Idea2: ห้องนั่งเ่ล่นความคิด (ลูกปัด)
" ความทุกข์จะค่อยๆ สอนให้เรารู้ว่่า...
เราเกิดมาพร้อมสมองและสองมือ..
สมองจะหาวิธี..
และสองมือจะลงมือจัดการแก้ไขปัญหา "
Good Idea1: Life on the rock: ว.แหวนฌน
" เมื่อไหร่ที่เราพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่...
เมื่อนั้น เราจะพบความหมายของชีวิต..
เมื่อไหร่ที่เรายังมีสิ่งที่อยากทำ..
เมื่อนั้น เราจะค้นพบความหมายของการมีชีวิตอยู่"
Welcome to DekDee Trend
To be as yourself here, the special identity is your eternal value .
Let's be happy and fun here.
วันเด็กแห่งชาติ
- ความหมายของเด็ก ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2525 ได้ให้ความหมายของคำว่า "เด็ก" ไว้ คือ "เด็ก" หมายถึง คนที่มีอายุยังน้อย ยังเล็ก อ่อนวัน เช่น เด็กชาย คือ คำนำเรียกเด็กผู้ชายที่มีอายุไม่เกิน 14 ปีบริบูรณ์ และ เด็กหญิง คือ คำนำเรียกเด็กผู้หญิงที่มีอายุไม่เกิน 14 ปี บริบูรณ์
- ประวัติความเป็นมาของวันเด็กแห่งชาตินั้น วันเด็กแห่งชาติ ตรงกับวันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี เป็นวันหยุดราชการที่มิได้ชดเชยในวันทำงานถัดไป (วันจันทร์) มีการให้คำขวัญวันเด็กทุกปีโดยนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งในขณะนั้น
- กิจกรรมวันเด็กแห่งชาติ กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันเด็กแห่งชาติ *ให้เด็กได้ตระหนักถึงคุณค่าบทบาท และความสำคัญของตนเอง *เข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้น ในโรงเรียน หมู่บ้าน หรือหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน *เด็ก คือ ทรัพยากรที่สำคัญยิ่งของประเทศชาติ ซึ่งจะเป็นกำลังที่สำคัญในการพัฒนาชาติบ้านเมืองให้เจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า และมั่นคงอีกทั้งเป็นผู้ที่จะต้องเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ในวันข้างหน้า เพื่อทำหน้าที่ดูแลสังคมตลอดจนเศรษฐกิจ วัฒนธรรม ความเปลี่ยนแปลง และอื่น ๆ ฯลฯ *ดังนั้น ทุกสังคมจึงให้ความสำคัญแก่เด็ก และจัดให้มีวันเด็กขึ้นทุกปี เพื่อให้เด็กรู้ถึงความสำคัญของตนเอง จะได้ประพฤติปฏิบัติตนให้สมกับเป็นผู้ที่มีความสำคัญของประเทศชาติ ด้วยการตั้งใจใฝ่ศึกษาเรียนรู้ ประพฤติปฏิบัติตนอยู่ในระเบียบวินัย รู้จักการใช้เวลา ความคิด มีความขยันหมั่นเพียร มีความรับผิดชอบ และซื่อสัตย์สุจริต ฯลฯ
- ดาวน์โหลดเพลงเด็กเอ๋ยเด็กดี* เพลง หน้าที่ของเด็ก หรือเรียกกันติดปากว่าเพลง เด็กเอ๋ยเด็กดี เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเตือนใจเด็กและเยาวชน เพื่อให้ระลึกถึงสิ่งที่ตนควรทำ ประพันธ์เนื้อร้องโดย ชอุ่ม ปัญจพรรค์ และทำนองโดย เอื้อ สุนทรสนาน เพลงนี้มักเปิดในช่วงวันเด็กแห่งชาติ * เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน เด็กเอ๋ยเด็กดี ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน หนึ่ง นับถือศาสนา สอง รักษาธรรมเนียมมั่น สาม เชื่อพ่อแม่ครูอาจารย์ สี่ วาจานั้นต้องสุภาพอ่อนหวาน ห้า ยึดมั่นกตัญญู หก เป็นผู้รู้รักการงาน เจ็ด ต้องศึกษาให้เชี่ยวชาญ ต้องมานะบากบั่น ไม่เกียจไม่คร้าน แปด รู้จักออมประหยัด เก้า ต้องซื่อสัตย์ตลอดกาล น้ำใจนักกีฬากล้าหาญ ให้เหมาะกับกาลสมัยชาติพัฒนา สิบ ทำตนให้เป็นประโยชน์ รู้บาปบุญคุณโทษ สมบัติชาติต้องรักษา เด็กสมัยชาติพัฒนา จะเป็นเด็กที่พาชาติไทยเจริญ
-그냥 재미있어서 공부하고 있어요 ^^:;
-세상에나... 4개국어를..-_-;;
-よ~いいビデオだ!!唷~这影片不错!!
-别嘴
-中文讲的很不错 英文也很标准 其他的好像也不错
-中文讲的不错
-다 독학으로 공부하셨어요???
-네 ^^;;
-와 몇개국어를 하시는거지.. 발음도 장난아니신거같은데^^ 대단해용
-아직 많이 부족해요 ^^ 계속 공부해야죠 ^^
-